บทความ

กินทุเรียนเทศแล้วหายจากมะเร็งจริงหรือ ???

รูปภาพ
อันเนื่องมาจากใบทุเรียนเทศกับข่าวที่แชร์กันในโลกออนไลน์ขณะนี้ เป็นลูกค้าของทีมงานเราที่ดูแลกันจนแผลแห้งแล้วไปกินทุเรียนเทศแล้วก็บอกว่าหายเพราะทุเรียนเทศ ดร.พิเชษฐ์บอกเสมอ ๆ ว่าถ้าใครเขาว่าของเขาดีให้กินไปไม่ต้องมากินของเรา แต่รายนี้กินของเราจนเกือบหายแล้วไปกินของคนอื่น แล้วบอกว่าหาย ไม่เห็นคุณค่าของบิม100 ก็ไม่เป็นไรแต่จะเป็นต้นหตุให้คนอื่น ๆ กินตามแล้วอาการทรุดในภายหลัง กรรมมากมายที่จะตามไป ลุกค้าบิมที่กินบิมจนดีขึ้นแล้วเลิกกินเพราะคิดว่าแพงไปกินทุเรียนเทศแล้วตายที่รู้ ๆ ค ือ 2 รายแล้ว และที่อาการทรุดจนต้องขอกลับมากินบิมอีกก็มีหลายราย มองกันในแง่ของความจริง การต้มใบไม้กินถึงจะมีสารที่ช่วยกำจัดมะเร็งได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าช่วยทำให้หายได้ กับสิ่งที่เป็นงานวิจัยที่มีผลการทดลอง มีการเก็บข้อมูลจากผู้ที่ป่วยจริงแล้วสุขภาพดีขึ้นจริง เป็นการสกัดเอาส่วนที่ดีมาใช้ เอาส่วนที่ไม่ดีออกไป ปรับปรุงจนเป็นสูตรที่ใช้แล้วเห็นผล อันไหนน่าเชื่อถือกว่ากัน คิดง่าย ๆ แค่นี้อ่ะ —  รู้สึกเพลียจิต

ข้อมูลวิจัยพบว่า สารแอนโนนาซิน ที่มีอยู่ในทุรียนเทศมีพิษต่อเซลล์ประสาท

รูปภาพ
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข  เตรียมศึกษาวิจัยสมุนไพรทุเรียนเทศ หลังมีกระแสในโลกสังคมออนไลน์ว่าใบทุเรียนเทศสามารถรักษาโรคมะเร็งได้        นายแพทย์อภิชัย  มงคล  อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์  เปิดเผยว่า   จากกรณีที่มีประชาชนสอบถามข้อมูลเรื่องสมุนไพร ทุเรียนเทศ เข้ามาที่สถาบันวิจัยสมุนไพร  กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์  กระทรวงสาธารณสุข  กันอย่างต่อเนื่อง  หลังจากมีการเผยแพร่สรรพคุณของใบทุเรียนเทศว่าสามารถทำลายเซลล์มะเร็งได้ดีกว่ายาเคมีบำบัดทางโลกออนไลน์  และมีผลิตภัณฑ์จากใบทุเรียนเทศวางจำหน่าย  รูปแบบต่างๆ  เช่น แคปซูล  ชาชง  รวมถึงมีการแนะนำให้ใช้ชาชงใบทุเรียนเทศร่วมกับการรักษาด้วยเคมีบำบัดนั้น ขณะนี้สถาบันวิจัยสมุนไพร  กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์  เตรียมรวบรวมใบทุเรียนเทศ มาศึกษาความเป็นพิษเบื้องต้นทางห้องปฏิบัติการ  หลังมีรายงานวิจัยของต่างประเทศพบว่า พืชชนิดนี้มีสารที่มีพิษต่อเซลล์ประสาท  และหากบริโภคในปริมาณมากจะมีผลต่อการทำงานของไต   อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์  กล่าวต่ออีกว่า  ทุเรียนเทศ เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ลำต้นสูงประมาณ 5-6 เมตร อยู่ในวงศ์เดียวกับน้อยหน่า ถิ่นกำเนิดอยู่ในอเ

ปฏิบัติการสร้างภูมิคุ้มกันที่สมดุล Operation BIM

รูปภาพ
                ธรรมชาติก็คือสิ่งที่สร้างเม็ดเลือดขาวให้ดูแลสุขภาพด้วยการปรับระดับภูมิคุ้มกันให้สมดุล การปรับภูมิคุ้มกันให้สมดุลของเม็ดเลือดขาวมีประสิทธิภาพสูงก็เพราะว่า เม็ดเลือดขาวในร่างกายของคนเรานี่มีเยอะมาก ผู้ชายมีถึง สองหมื่นล้านถึงห้าหมื่นห้าพันล้านเม็ด ส่วนในผู้หญิงก็อาจจะมีประมาณสัก 95 % ของผู้ชาย  เม็ดเลือดขาวเหล่านี้สื่อถึงกันอย่างรวดเร็วผ่านปฏิกิริยาลูกโซ่ของสารสื่อกลางที่หลั่งออกมาเพื่อให้ทำงานร่วมกัน เม็ดเลือดขาวนี้เราจะแบ่งหน้าที่ของมันออกเป็น 3 กลุ่ม                             กลุ่มแรกก็คือ  Phagocyte , NK cell  และ cytotoxic  T cell ทำหน้าที่ทำลาชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย เช่น เชื้อรา แบคทีเรีย ไวรัส เนื้องอกและมะเร็ง                กลุ่มที่สอง คือ B cell และ  plasma cell ทั้งสองเซลส์นี้จะสร้างภูมิคุ้มกัน (Antibudy) ต่อสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย (Antigen)                กลุ่มที่สาม คือ T helper cell  กลุ่มนี้จะส่งสื่อสัญญาณถึงเม็ดเลือดขาวในกลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่  2 ให้ทำหน้าที่กำจัดสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย               T helper cell

BIM 100 ไม่ใช่ยา แต่ BIM คืออาหาร

รูปภาพ
BIM ไม่ใช่ยา แต่ BIM คืออาหาร ยาคือสารสังเคราะ BIMคือสารสกัดธรรมชาติยาทำหน้าที่รักษา บรรเทาอาการ BIM ทำหน้าที่ในการ เสริมสร้าง ฟื้นฟู ปรับสมดุล BIM และ ยา มีความจำเป็นแตกต่างกัน และไม่มีผลขัดแย้งกัน ยาทำงานนอกเซลล์ BIM ทำงานในเซลล์ ทั้งสองวิธีส่งผลดีกับผู้ป่วยทั้งคู่ ถ้าใช้ร่วมกันอย่างบูรณาการ ปัญหาสุขภาพทุกปัญหาจะดีขึ้นอย่างรวดเร็ว ทานยาเชื่อหมอทำตามหมออย่างมีวินัย ทานBIMเชื่อ ดร.พิเชษฐ์ ทานตามสูตร ตามปริมาณ ตามเวลา อย่างมีวินัย... เพราะสิ่งนี้เรียกว่าการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม..ในต่างประเทศใช้วิธีการเช่นนี้มานานแล้ว ในการรักษาผู้ป่วย.. BIM เป็นสารอาหารสกัดที่ประกอบด้วย มังคุด งาดำ ถั่วเหลือง บัวบก ฝรั่ง สกัดในส่วนที่ดีที่สุดนำมาผสมในสัดส่วนที่เสริมฤทธิกัน..เป็นงานวิจัยที่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐร่วมกับศูนย์วิจัยและพัฒนามังคุดไทย ในเครือ APCO ..สูตรอาหารนี้บรรจุในแคปซูลเมื่อเราทาน BIM เข้าไปเท่ากับเราทานอาหารที่ดี สามารถเข้าสู่ระดับเซลล์ร่างกายใช้ได้ทันที..และมีผลโดยตรง.. กับการปรับความสมดุลของระบบภูมิคุ้มกัน และเสริมสร้างซ่อมแซมเซลล์ที่สึกหรอ BIM คือ สารอาห

‪ไตอักเสบ‬

รูปภาพ
‪ #‎ ไตอักเสบ‬ # ไตทำหน้าที่กรองของเสียและน้ำออกมาเป็นปัสสาวะ เมื่อมีการอักเสบเกิดขึ้นที่หน่วยไต ทำให้ร่างกายขับปัสสาวะออกได้น้อย มีของเสีย คั่งอยู่ในเลือดมากกว่าปกติ รวมทั้งมีเม็ดเลือดแดง และสารไข่ขาวรั่วออกมาในปัสสาวะ. ทำให้เกิด อาการบวม และปัสสาวะออกมาเป็นสีแดง สาเหตุ โรคนี้มักเกิดตามหลังการติดเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า บีตา-สเตรปโตค็อกคัส กลุ่มเอ (Beta-streptococcus group A) เช่น ไฟลามทุ่ง ต่อมทอนซิลอักเสบ ผิวหนังอักเสบ พุพองตาม ผิวหนังประมาณ 1-4 สัปดาห์ (เฉลี่ย 10-14 วัน) โดยทำให้เกิดปฏิกิริยา ขึ้นที่หน่วยไต ทำให้หน่วยไต เกิดการอักเสบไปทั่ว นอกจากนี้ยังอาจเกิดร่วมกับโรค SLE, ซิฟิลิส, การแพ้สารเคมี (เช่น ตะกั่ว) เป็นต้น อาการ ผู้ป่วยจะสังเกตเห็นปัสสาวะออกมาเป็นสีแดงเหมือนน้ำล้างเนื้อ หรือน้ำหมาก และจำนวนปัสสาวะมักออกน้อยกว่าปกติ อาจพบอาการบวมที่หน้า หนังตา เท้า และท้อง มักมีอาการปวดศีรษะ มีไข้ อ่อนเพลีย เบื่ออาหารคลื่นไส้ อาเจียน ถ้าเป็นรุนแรง อาจมีอาการหอบเหนื่อย หรือชัก สิ่งที่ตรวจพบ ไข้ หน้าบวม หนังตาบวม เท้าบวมกดบุ๋ม อาจมีอาการท้องบวม ปัสสาวะขุ่นแดง และตรว

เม็ดเลือดขาวมีหน้าที่ภูมิคุ้มกันด้านเซลล์

รูปภาพ
เม็ดเลือดขาว เม็ดเลือดขาวมีหน้าที่ภูมิคุ้มกันด้านเซลล์ แบ่งเป็นชนิดต่างๆดังนี้ Polymorphonuclear หมายถึงเม็ดเลือดขาวที่มี nucleus หลายรูปแบบ เป็นเม็ดเลือดขาวที่มี granule อยู่ใน cytoplasm ของเซลล์ จึงเรียกเม็ดเลือดขาวเหล่านี้ว่า granulocyte ภายใน granule เหล่านี้บรรจุ enzyme และสารหลายชนิด แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ตามลักษณะและหน้าที่ 1.Neutrophil พบ 40-70% ในกระแสเลือด มี granule ขนาดเล็กย้อมติดสีชมพู ทำหน้าที่กินสิ่งแปลกปลอมโดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรีย และยังสามารถฆ่าพยาธิ รา เซลล์มะเร็งได้ด้วย เมื่อมีการติดเชื้อแบคทีเรียในร่างกาย ไขกระดูกปล่อย neutrophil ออกมาจำนวนมากเพื่อกำจัดเชื้อโรค เราจึงพบเซลล์ตัวอ่อน ซึ่งมีขนาดใหญ่ และมี granule เพิ่มขึ้นมากมาย เรียกว่า toxic granule เห็นได้ชัดจากกล้องจุลทรรศน์ เมื่อ neutrophil กินเชื้อโรคเข้าไปในเซลล์ จะปล่อยenzyme ออกจาก granule มาย่อยเชื้อโรค แล้วสลายตัวกลายเป็นหนอง หากอยู่ในกระแสเลือด ซากของเซลล์ที่สลายตัวถูกกำจัดออกไปจากร่างกายโดยlymphocyte และ monocyte 2.Eosinophil พบ 2-3% ในกระแสเลือด มี granule ย้อมติดสีส้มจำนวนมากมาย ส่วนใหญ่ eosinophil

ระบบภูมิคุ้มกัน หรือ Immune system

รูปภาพ
ระบบภูมิคุ้มกัน ระบบภูมิคุ้มกัน หรือ Immune system คือระบบที่คอยปกป้องร่างกายของเราจากสิ่งแปลกปลอมต่างๆ ที่อาจเข้ามาทำอันตรายร่างกายเราได้ เช่น เชื้อโรคชนิดต่างๆ ได้แก่ แบคทีเรีย ไวรัส ปรสิต รา พยาธิ รวมถึงสิ่งแปลกปลอมอื่นๆ เช่น เซลล์ที่กำลังเจริญเติบโตไปเป็นมะเร็ง อวัยวะของผู้อื่นที่ปลูกถ่ายเข้ามาในร่างกาย การได้รับเลือดผิดหมู่ สารก่อภูมิแพ้ ฯลฯ สิ่งต่างๆ เหล่านี้มีคุณสมบัติเป็นสิ่งแปลกปลอมที่ร่างกายยังไม่รู้จัก เรียกว่า antigen ระบบภูมิคุ้มกันแบ่งเป็น 2 ระบบ 1.Innate immunity คือระบบภูมิคุ้มกันที่ติดตัวมาแต่กำเนิด ได้แก่ พื้นผิวที่สัมผัส antigen โดยตรง คือ ผิวหนังและเยื่อบุต่างๆ ซึ่งมีคุณสมบัติเฉพาะตัวในการป้องกันและกำจัดสิ่งแปลกปลอมซึ่งส่วนใหญ่คือเชื้อโรคออกไปจากร่างกาย ดังนี้ ผิวหนัง เชื้อโรคไม่สามารถบุกรุกผิวหนังปกติที่ไม่มีบาดแผล อีกทั้งความเป็นกรดของไขมันที่ผลิตออกมาจากต่อมไขมันที่ผิวหนัง ได้แก่ lactic acid และfatty acid ช่วยยับยั้งและทำลายเชื้อโรค หากผิวหนังชั้นนอกเปิดออก เช่น มีบาดแผล หรือ ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก เชื้อแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ที่ผิวหนังก็จะแบ่งตัวเพิ่มจำนวนอย่